|
การลงทุนเปิดร้านทำเล็บ
(อ่าน 2056/ ตอบ 2)
nailoft
|
หัวข้อ :การลงทุนเปิดร้านทำเล็บ
10/05/2011
, 15:05
Quote
หลักเกณฑ์ที่ผู้ลงทุนเปิดร้านทำเล็บควนพิจารณา มีดังต่อไปนี้
1. ทำเลที่ตั้ง มีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมเช่นอยู่ในชุมชนที่มีกลุ่มคนที่เป็นลูกค้าเป้าหมายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือกลุ่มลูกค้า เป้าหมายสมารถเดินทางได้สะดวก 2. ขนาดของร้าน - ขนาดเล็ก : พื้นที่โดยประมาณ 2-8 ตารางเมตร โดยมักจะเป็นร้านที่ให้บริการเพ้นท์เล็บหรือต่อเล็บซึ่งจะใช้โต๊ะทำเล็บ ประมาณ 2 โต๊ะ - ขนาดกลาง : ตั้งแต่ 12- 45 ตารางเมตร ให้บริการแบบครบวงจรได้แก่ การเสริมต่อเล็บ,การเพ้นท์เล็บ, ,สปามือเท้า, (ทำความสะอาดเล็บ) และอื่นๆ ซึ่งจะมีโต๊ะสำหรับทำเล็บตั้งแต่ 2โต๊ะขึ้นไปและมีเก้าอี้สปาตั้งแต่ 2 โต๊ะขึ้นไป - ขนาดใหญ่ : ได้แก่ร้านทำเล็บที่มีขนาด พื้นที่ 45 ตารางเมตร ขึ้นไป ให้บริการเกี่ยวกับเล็บครบวงจรทั้งการเสริมต่อเล็บ, การเพ้นท์เล็บ,ตัดหนัง ,สปามือเท้า,(ทำความสะอาดเล็บ) และยังอาจจะมีบริการเสริมอื่นๆอีก เช่น ทำผม,นวดตัวนวดหน้า ฯลฯ 3. จำนวนเงินลงทุน - ค่าตกแต่งร้าน ซึ่งทั่วไปการตกแต่งร้านจะใช้งบโดยประมาณ 18,000-20,000 บาท ต่อ ตารางเมตร สำหรับวงเงิน ในการตกแต่งร้านขนาดกลางๆ ไม่หรูหรา ค่าตกแต่งร้านขึ้นอยู่กับการเลือกใช้วัสดุของผู้ลงทุน ถ้าเลือกใช้วัสดุที่มี ราคาแพงจะทำให้ต้นทุนในการตกแต่งราคาสูง หากเลือกวัสดุราคาย่อมเยาจะทำให้ต้นทุนถูกลง - ค่าอุปกรณ์การทำเล็บ 1. โต๊ะทำเล็บ 1ตัว ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ทำเล็บ ได้แก่ - กรรไกร,พู่กัน,เครื่องอบ,ตะไบฯลฯ ราคาโดยประมาณ 15,000-30,000 บาท - วัสดุที่ใช้แล้วหมดไป เช่น สีทาเล็บ, ผงสี, น้ำยา ฯลฯ ราคาโดยประมาณ 15,000-40,000 บาท 2. เก้าอี้ Spa จะประกอบด้วยอุปกรณ์ทำเล็บต่างๆ ได้แก่ - เก้าอี้ราคา 80,000 – 300,000 บาท - วัสดุที่ใช้แล้วหมดไป เช่น สำลี, scrub ,อุปกรณ์สปา,โลชั่น ฯลฯ ราคาโดยประมาณ 8,000-15,000 บาท - อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ที่ขัดเท้า,ตะไบ ฯลฯ ราคาโดยประมาณ 15,000-30,000 บาท 4. การตั้งราคาบริการ ควรพิจารณาจาก ทำเลที่ตั้งของร้าน,กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย,และผลิตภัณฑ์ที่นำมาให้บริการซึ่งแต่ละที่ก็จะมีลักษณะ แตกต่างกันไป 5. ค่าจ้างพนักงาน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์,ทักษะและความสามารถในการปฏิบัติงาน
หลักเกณฑ์ที่ผู้ลงทุนเปิดร้านทำเล็บควนพิจารณา มีดังต่อไปนี้
1. ทำเลที่ตั้ง มีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมเช่นอยู่ในชุมชนที่มีกลุ่มคนที่เป็นลูกค้าเป้าหมายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือกลุ่มลูกค้า เป้าหมายสมารถเดินทางได้สะดวก 2. ขนาดของร้าน - ขนาดเล็ก : พื้นที่โดยประมาณ 2-8 ตารางเมตร โดยมักจะเป็นร้านที่ให้บริการเพ้นท์เล็บหรือต่อเล็บซึ่งจะใช้โต๊ะทำเล็บ ประมาณ 2 โต๊ะ - ขนาดกลาง : ตั้งแต่ 12- 45 ตารางเมตร ให้บริการแบบครบวงจรได้แก่ การเสริมต่อเล็บ,การเพ้นท์เล็บ, ,สปามือเท้า, (ทำความสะอาดเล็บ) และอื่นๆ ซึ่งจะมีโต๊ะสำหรับทำเล็บตั้งแต่ 2โต๊ะขึ้นไปและมีเก้าอี้สปาตั้งแต่ 2 โต๊ะขึ้นไป - ขนาดใหญ่ : ได้แก่ร้านทำเล็บที่มีขนาด พื้นที่ 45 ตารางเมตร ขึ้นไป ให้บริการเกี่ยวกับเล็บครบวงจรทั้งการเสริมต่อเล็บ, การเพ้นท์เล็บ,ตัดหนัง ,สปามือเท้า,(ทำความสะอาดเล็บ) และยังอาจจะมีบริการเสริมอื่นๆอีก เช่น ทำผม,นวดตัวนวดหน้า ฯลฯ 3. จำนวนเงินลงทุน - ค่าตกแต่งร้าน ซึ่งทั่วไปการตกแต่งร้านจะใช้งบโดยประมาณ 18,000-20,000 บาท ต่อ ตารางเมตร สำหรับวงเงิน ในการตกแต่งร้านขนาดกลางๆ ไม่หรูหรา ค่าตกแต่งร้านขึ้นอยู่กับการเลือกใช้วัสดุของผู้ลงทุน ถ้าเลือกใช้วัสดุที่มี ราคาแพงจะทำให้ต้นทุนในการตกแต่งราคาสูง หากเลือกวัสดุราคาย่อมเยาจะทำให้ต้นทุนถูกลง - ค่าอุปกรณ์การทำเล็บ 1. โต๊ะทำเล็บ 1ตัว ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ทำเล็บ ได้แก่ - กรรไกร,พู่กัน,เครื่องอบ,ตะไบฯลฯ ราคาโดยประมาณ 15,000-30,000 บาท - วัสดุที่ใช้แล้วหมดไป เช่น สีทาเล็บ, ผงสี, น้ำยา ฯลฯ ราคาโดยประมาณ 15,000-40,000 บาท 2. เก้าอี้ Spa จะประกอบด้วยอุปกรณ์ทำเล็บต่างๆ ได้แก่ - เก้าอี้ราคา 80,000 – 300,000 บาท - วัสดุที่ใช้แล้วหมดไป เช่น สำลี, scrub ,อุปกรณ์สปา,โลชั่น ฯลฯ ราคาโดยประมาณ 8,000-15,000 บาท - อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ที่ขัดเท้า,ตะไบ ฯลฯ ราคาโดยประมาณ 15,000-30,000 บาท 4. การตั้งราคาบริการ ควรพิจารณาจาก ทำเลที่ตั้งของร้าน,กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย,และผลิตภัณฑ์ที่นำมาให้บริการซึ่งแต่ละที่ก็จะมีลักษณะ แตกต่างกันไป 5. ค่าจ้างพนักงาน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์,ทักษะและความสามารถในการปฏิบัติงาน เจ้าของเว็บไซต์ แก้ไขเมื่อ 10/05/2011 - 15:47
|
๋Juni
|
ความคิดเห็นที่ 1
02/11/2011
, 11:21
Quote
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ พอดีมีพี่มาสอนทำเล็บให้ เลยอยากนำความรู้ไปใช้บ้างค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ พอดีมีพี่มาสอนทำเล็บให้ เลยอยากนำความรู้ไปใช้บ้างค่ะ
|
Page : 1
แสดงความคิดเห็น
|
|